ลมและมวลอากาศ ( Wid and Airmass) กระแสลมเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิและความชื้นที่พัดผ่านเปลี่ยนแปลงไปได้ บริเวณที่ลมหรือมวลอากาศร้อนพัดผ่านบริเวณนั้นจะร้อนหรือแห้งแล้งตามไปด้วย 6. กระแสนำในมหาสมุทร ( Ocean Currents) บริเวณใด กระแสน้ำอุ่นไหลผ่านจะทำให้บริเวณชายฝั่งอบอุ่นสบาย ถึงแม้จะเป็นหน้าหนาว ตรงข้ามบริเวณที่มีการแสน้ำเย็นไหลผ่าน จะทำให้บริเวณนั้นหนาวขึ้นไปอีก 7. การวางตัวของภูเขา บริเวณใดที่มีภูเขาวางกั้นทางลม จะทางทำให้บริเวณด้านหลังภูเขาหรือด้านรับลม ( Wind ward Side) จะมีความชุ่มชื้นฝนตกชุกกว่าด้านรับลม ( Lee ward Side) หรือบริเวณด้านเงาฝน ( Fain Shadow) 8. พายุ ( Stormr) ลมพายุเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลมพายุแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. พายุฟ้าคะนอง ( thunderstorm) เป็นพายุที่เกิดในบริเวณแคบ ๆ จากการที่อากาศได้รับความร้อนจัดลอยตัวสูงขึ้นจึงเกิดเป็นเมฆฝน ทำให้ฝนตกมีฟ้าคะนอง และอาจมีลูกเห็บตกด้วย 2. พายุไซโคลน ( Cyclone) แบ่งตามความเร็วลม ออกได้เป็น 3 ชนิด คือ ก. พายุดีเปรสชั่น ( Depression) ความเร็วของลมมีศูนย์กลางไม่เกิน 33 น๊อต ( 61 กม.
)ต่อชั่วโมง ข. พายุโซนร้อน ( Tropical Storms) เป็นชื่อเรียกขั้นตอนของการเกิดพายุจากดีเปรสชั่น คือถ้าความเร็วลมเพิ่มขึ้นถึง 34 น๊อต ( 62 กม. ) ถึง 63 น๊อต ( 117 กม. )ต่อชั่วโมง เรียกว่า พายุโซนร้อน ค. พายุไต้ฝุ่น ( Typhoon) เป็นพายุหมุนที่มีความเร็วตั้งแต่ 64 น๊อต ( 118 กม. ) ขึ้นไป เป็นพายุที่พัดรุนแรงที่สุด องค์ประกอบบรรยากาศภาค การเกิดภาวะเรือนกระจก บรรยากาศ หมายถึงส่วนของลมฟ้าอากาศที่ห่อหุ้มโลก มีความหนาประมาณ 10000 กม. มนุษย์จะอาศัยอยู่ตอนล่างสุดของบรรยากาศ อากาศจึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ เพราะสามารถกำหนดสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ชั้นบรรยากาศที่ห้อหุ้มโลกแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ดังนี้คือ 1. บรรยากาศชั้นล่าง ( Homosphere) อยู่เหนือผิวโลกประมาณ 90 กม. เป็นชั้นที่การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ง่าย 2. บรรยากาศชั้นบน ( Heterosphere) อยู่ถัดจากบรรยากาศชั้นล่าง 90 กม. มีอากาศน้อยมาก ประกอบด้วยประจุไฟฟ้า มีแสงเงินแสงทองที่เรียกว่า ออโรร่า มีการสะท้อนกลับของคลื่นวิทยุสู่ผิวโลก มีช่วงกว้าง 90 - 3500 กม.