กล้วยแดงอินโด หรือชื่อคือ ทับทิมสยาม เป็นพันธุ์กล้วยพื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซีย มีลักษณะเหมือนกับกล้วยไทย ทั้งลำต้น รูปทรงใบ และการเจริญเติบโต จะแตกต่างจากกล้วยไทยตรงมีใบสีแดงสดใส ปกติกล้วยพันธุ์นี้จะมีลำต้นและใบสีแดง แต่ที่แตกต่างคือ จะมีลายด่างบนใบ ซึ่งในประเทศไทยมีถึง 6 แบบด้วยกัน 3. กล้วยเทพนม ถือว่าเป็นกล้วยโบราณ นิยมนำกล้วยไปใช้ในงานพิธีต่างๆ ลักษณะเด่นของกล้วยเทพนม เปลือกผลหนาติดกันตลอดทั้งหวี และทั้งผลแถวบนแถวล่าง เป็นเปลือกแผ่นเดียวกัน มีร่องแบ่งผลเป็นตอนๆ หรือเป็นพู ทำให้ดูเหมือนมือกำลังพนมคว่ำปลายนิ้วลง จึงถูกตั้งชื่อตามลักษณะว่า "กล้วยเทพนม" กล้วยเทพนมเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ควรมีไว้ติดในสวนรองจากกล้วยด่างฟลอริด้า เนื่องจากเขาให้ลวดลายสวยงาม จัดจ้าน แต่ราคาค่อนข้างสูงและค่อนข้างหายาก รสชาติ หวาน หอม เนื้อเหนียวนุ่ม ทำกล้วยบวชชีอร่อยมาก เพราะเนื้อเขาจะเหนียวนุ่ม อมเปรี้ยวนิดๆ ปลูกลงดินประมาณ 4-5 เดือน ก็เริ่มทยอยออกหน่อแล้ว 4.
ต้นเงินไหลมาเทมา หลังจากผ่านไม้ด่างราคาสูง ๆ กันมาแล้ว มาดูไม้ด่างราคาย่อมเยาสบายกระเป๋าดีกว่า อย่างต้นเงินไหลมาเทมา ต้นนี้เป็นพืชประเภทไม้เลื้อยที่มีสีด่าง ที่สำคัญราคาไม่แรง เพราะราคาอยู่ที่หลักร้อย ถึงหลักพัน ดูจากชื่อแล้วก็รู้เลยว่าไม้ด่างพันธุ์นี้เสริมเรื่องเงินทองให้ไหลมาเทมาตามชื่อแน่นอน ทำให้คนส่วนใหญ่มักซื้อมาแต่งห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่น เพราะความมงคลของชื่อนั่นเอง 7. พลูราชินีหินอ่อน มาต่อกันที่ชนิดต่อมา นั่นก็คือ "พลูราชินีหินอ่อน" เป็นไม้ด่างที่หาซื้อง่าย ราคาเริ่มเพียง 150 บาทเท่านั้น แถมยังเป็นพันธุ์ที่สามารถเพาะพันธุ์ได้ง่ายมาก ๆ นอกจากความง่ายในการเพาะพันธุ์ และราคาที่แสนน่ารักแล้ว ทำให้เป็นที่นิยมในการซื้อมาแต่งสวนหรือตกแต่งหน้าบ้าน เพราะเป็นไม้ด่างที่เสริมเสน่ห์ให้เจ้าของบ้านและคนในบ้าน ทั้งถูกทั้งดีต้องมีแล้ว 8. พลูงาช้าง ไม้ด่างอีกชนิดที่เรียกได้ว่าราคาเป็นมิตรกับมือใหม่มาก ๆ นั่นก็คือพลูงาช้าง ซึ่งพลูงาช้างเป็นพืชที่นิยมปลูกแบบแขวนลอย เพราะสามารถฟอกอากาศได้ ทำให้ส่วนใหญ่มักจะถูกไว้ในห้องนอน หรือแขวนตามริมหน้าต่าง ด้วยขนาดต้นที่ไม่ใหญ่ ทำให้การวางไว้ในห้องนอนไม่มีผลต่อร่างกาย ราคาที่หาซื้อได้จะอยู่ที่ 50 – 80 บาทต่อต้น และไม้ด่างชนิดนี้ยังมีความเชื่อว่าปลูกแล้วเสริมเสน่ห์ ทำให้อยู่ร่มเย็นไม่ทุกข์ร้อนอีกด้วย 9.