โรคไข้สมองอักเสบเจอี มี " ยุงรำคาญ " เป็นพาหะ ยุงชนิดนี้จะพบมากตามแหล่งน้ำในบริเวณทุ่งนาและตามฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่พบในสุกร และนก หากยุงไปกัดสัตว์ที่มีเชื้อก็กลายเป็นพาหะและนำโรคมาสู่คนได้ในที่สุด หลังจากร่างกายได้รับเชื้อ 5-15 วัน จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อาเจียน มีอาการผิดปกติทางสมองเช่น ซึม สับสน คอแข็ง เพ้อ ชัก ควบคุมความเคลื่อนไหวของมือไม่ได้ ชักเกร็ง เป็นอัมพาตหรือหมดสติ โรคนี้ไม่มีวิธีรักษาโดยตรง แค่รักษาประคับประครองตามอาการ หากรักษาหายแล้วผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการทางสมองหลงเหลืออยู่บ้าง เช่น พูดไม่ชัด ชักเกร็งบ่อยๆ หรือปัญญาอ่อน 6. ไข้เหลือง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มี " ยุงลาย " และ " ยุงป่า " เป็นพาหะนำโรค อาการของโรคนี้คือ มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายที่มีอาการรุนแรงจะพบภาวะเลือดออกและดีซ่านร่วมด้วย รวมทั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายในบางอย่างเช่น ตับ ไต หัวใจ ซึ่งเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตามไข้เหลืองเป็นโรคที่พบได้น้อยมากในประเทศไทย 7.
โรคไข้สมองอักเสบเจอี เกิดจากเชื้อไวรัสเจอี (Japanese encephalitis) มียุงรำคาญเป็นพาหะนำโรค ผู้ติดเชื้อไวรัสเจอีส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ แต่ถ้ามีอาการมักรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต เริ่มด้วย มีไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ต่อไปอาการ ปวดศีรษะ จะมากขึ้น มีอาการ อาเจียน ง่วงซึมจนไม่รู้สึกตัว อาจมีอาการหายใจไม่สม่ำเสมอ ในรายที่เป็นรุนแรงมากจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ประมาณวันที่ 7 - 9 4. ไข้ปวดข้อยุงลาย (ชิคุนกุนย่า) นับป็นโรดเก่าที่อุบัติขึ้นมาใหม่ โรคนี้เกิดจาก เชื้อไวรัส Chikungunya เป็นไวรัสคนละกลุ่มกับไข้เลือดออกและไข้ไวรัสซิก้า ชิคุนกุนยา พาหะของโรค ได้แก่ ยุงลายบ้าน และยุงลายสวน โดยอาการของโรคจะ มีไข้สูง ถึง 39 - 40 องศาเซลเซียส ประมาณ 3 วัน เจ็บปวดตามข้อ โดยข้อที่ปวดจะเป็นข้อเล็กๆ มีผื่นขึ้นทั่วตัว ตาแดง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว 5.
โรคที่เกิดจากยุงน้อยตัวร้าย 1.
โรค เท้าช้าง ยุงหลายชนิดสามารถเป็นพาหะโรคนี้ได้ เนื่องจากโรคนี้มีสาเหตุมาจากพยาธิชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ยุงโดยไม่เลือกสายพันธุ์ของยุง เมื่อได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อจะไปกระตุ้นให้ต่อมน้ำเหลืองเกิดการอักเสบและบวมโต ระบบการไหลเวียนของท่อน้ำเหลืองอุดตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรักแร้และขาหนีบ ผิวหนังบริเวณนั้นจะบวมแดง มีน้ำเหลืองคั่ง คลำแล้วรู้สึกว่าผิวขรุขระ ในที่สุดเท้าของผู้ป่วยก็จะบวมโต ต้องรีบเข้ารับการรักษาเพราะหากรักษาไม่ทันอาจจะบวมจนถึงขั้นพิการได้และต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะถึงแม้ว่าจะหายแล้วก็ยังเสี่ยงต่อภาวะต่อมน้ำเหลืองโตได้ 4. ไข้ปวดข้อยุงลาย (ชิคุนกุนย่า) มีพาหะนำโรคคือ " ยุงลาย " อาการบางอย่างคล้ายไข้เลือกออกเช่น ไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ แต่เนื่องจากไม่มีการรั่วของพลาสม่าออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบอาการช็อค หากอาการรุนแรงจะปวดบวมตามข้อมาก ซึ่งอาการปวดที่รุนแรงอาจทำให้พิการได้ โรคชิคุนกุนย่านั้นพบว่ามีความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ในอัตราที่ต่ำมาก แต่ถ้าหากผู้ติดเชื้อเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนแอก็มีความเสี่ยงเสียชีวิตได้ ส่วนถ้าเป็นการติดเชื้อในเด็กทารกจะเพิ่มโอกาสการเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ 5.
พญ. รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ศ. 1947 (พ.
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ซึ่งเหมาะกับการแพร่พันธ์ของยุง แม้เราจะมองว่ายุงนั้นตัวเล็กๆ ยุงบางชนิดยังอันตรายต่อชีวิตเรามาก แต่บอกได้เลยว่ายุงเหล่านี้สามารถเป็นพาหะนำโรคร้ายหลายชนิดมาสู่คนได้ และบางโรคก็ส่งผลอันตรายถึงชีวิต วันนี้ พี่หมี TQM มาพร้อมกับ "โรคที่เกิดจากยุงเป็นพาหะ" ว่ามีโรคอะไรบ้างครับ 1. โรคไข้เลือดออก โรคไข้เลือดออก มีพาหะนำโรคคือ ยุงลาย ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) โดยมี 4 สายพันธุ์ และเมื่อยุงลายที่มีเชื้อมากัดเรา เราก็อาจป่วย โรคไข้เลือดออก ได้ โดยอาการของโรค หลังถูกยุงลายกัด 5-8 วัน จะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามร่างกาย เบื่ออาหาร มีจุดเลือดออกขนาดเล็กกระจายอยู่ที่บริเวณแขน ขา ลำตัว และรักแร้ รวมถึงมีเลือดกำเดาสีดำ หรือมีเลือดออกตามไรฟัน ปวดใต้ชายโครงขวาเป็นพิเศษ กดแล้วรู้สึกเจ็บ เกิดจากอาการตับโต 2. โรคไข้ซิก้า ซึ่งอยู่ในตระกูลฟลาวิไวรัส (flavivirus) เกิดจากยุงลายเป็นพาหะนำโรค ระยะฟักตัวของโรคไข้ซิกาใช้เวลาเฉลี่ย 4-7 วัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้ มีผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ซึ่งโดยปกติแล้วอาการเหล่านี้จะเป็นเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรง และเป็นอยู่ประมาณ 2-7 วัน 3.
วันที่ 24/07/2561 เวลา 15:44:22 น.