วิธี ทํา ทับทิม กรอบ มันแกว

  1. ทับทิมกรอบ
  2. เผยสูตรเด็ด ทับทิมกรอบ มันแกวแทนแห้ว งบน้อยอร่อยมากอาชีพเสริมกำไรหลักหมื่น | THAIMUNGLIVE

ทับทิมกรอบ ขนมอร่อยทำง่าย วันนี้วัตถุดิบหลักอ้อใช้เป็นมันแกวค่ะ ใช้สีผสมอาหารและสีของดอกอัญชัญแห้ง ส่วนผสม มันแกวหรือแห้วหั่นชิ้นเล็กๆ ขนาด 1-1. 5 ซม.

ทับทิมกรอบ

จิ๋วหิวโซขอฟ้าเข้าครัวทำเมนูขนมไทยกันค่ะ ซึ่งช่วงนี้ขนมไทยสีฟ้ากำลังมาแรง เราเลยจะพาเพื่อน ๆ มาลองทำเมนู "ทับทิมกรอบอัญชัน" หรืออีกชื่อก็คือ "ไพลินกรอบ" กันค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะทำ 3 สี นั่นก็คือสีน้ำเงินเข้ม สีน้ำเงินอ่อน สีขาว และนำไปราดด้วยกะทิสุดเข้มข้นหวานมัน แค่พูดก็อยากลองแล้วค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าจ้า วัตถุดิบเมนู "ไพลินกรอบ" วัตถุดิบ 1. น้ำกะทิ 3 ถ้วยตวง 2. แห้ว 100 กรัม 3. แห้ว 100 กรัม 4. แห้ว 100 กรัม 5. แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง 6. แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง 7. แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง 8. น้ำตาลทราย 1 ¼ ถ้วยตวง 9. น้ำอัญชันสีน้ำเงินเข้ม 2 ถ้วยตวง 10. น้ำอัญชันสีน้ำเงินอ่อน 2 ถ้วยตวง 11. เกลือ 2 ช้อนชา 12.

กระทู้รีวิว ของหวาน นึกครึ้มอยากลองทำขนมหวาน ไม่เคยได้ทำเลย เห็นมันแกววางอยู่ ก็เลย กลายเป็น ทับทิมกรอบ ขั้นตอนต่อไป ก็ปอกมันแกว หั่นมันแกว ให้เป็นคล้ายๆ ลูกเต๋า แต่ไม่คอยเหมือนแฮะ ได้ออกมาล่ะ จะทำให้เป็นสีแดง โดยการแช่น้ำแดง วันนี้ใช้น้ำแดง Hale's blueboy คะ ใส่สัก 1 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง แช่ไว้ 30 นาที คะ ระหว่างรอเลยทำน้ำเชื่อม ใช้น้ำตาลทราย 1 ถต. + น้ำเปล่า 1 ถต.

เผยสูตรเด็ด ทับทิมกรอบ มันแกวแทนแห้ว งบน้อยอร่อยมากอาชีพเสริมกำไรหลักหมื่น | THAIMUNGLIVE

ทำน้ำเชื่อมก่อนเป็นอันดับแรก โดยนำน้ำลอยมะลิมาตั้งไฟให้เดือด จากนั้นใส่ใบเตยและน้ำตาลทรายลงไป ต้มจนใบเตยส่งกลิ่นหอมและน้ำเชื่อมเริ่มมีความเหนียวปิดไฟ แล้วทิ้งไว้ให้เย็น 2. ทำกะทิสำหรับราดโดยจะใช้เป็นกะทิสด เพราะจะมีความหอมและอร่อยกว่ากะทิกล่อง นำมาผสมกับเกลือ คนให้เข้ากัน 3. นำแห้วมาล้าง ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาล้างน้ำสะอาดอีกรอบ จากนั้นนำแห้วที่หั่นแล้วมาใส่ตะแกรงผึ่งลมทิ้งไว้ให้แห้ง เพราะเวลาย้อมสีจะทำให้สีติดง่ายขึ้น 4. นำสีผสมอาหารแบบน้ำมาผสมกับน้ำเปล่า ส่วนความเข้มข้นของสีนั้นแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ อยากได้สีเข้มก็ใส่สีผสมอาหารเย็นหน่อยแต่ถ้าหากอยากได้สีอ่อนๆ ก็ใส่เพียงเล็กน้อยก็พอค่ะ เสร็จแล้วก็ตัวสีผสมอาหารลงบนแห้ว คลุกให้สีติดทั่วๆแห้ว 5. ร่อนแป้ง 1 ครั้ง แล้วตกลงไปคลุกกับแห้ว ทำไปเรื่อยๆ จนแป้งไม่ติดกับเม็ดแห้วก็ใช้ได้ ทิ้งไว้สักพักให้แป้งเกาะตัวกันดีแล้วค่อยนำแป้งมาร่อนส่วนเกินออก จากนั้นนำไปต้มในน้ำให้เดือด คนเบาๆ เพื่อไม่ให้แป้งติดก้นหม้อ เมื่อได้ที่แล้วขนมจะลอยขึ้นมา ต้มต่ออีกสักพัก เมื่อได้แล้วตักขนมมาใส่น้ำเย็นจัด แช่น้ำแข็งให้ขนมคลายความร้อนกันขนมติดกัน 6. จากนั้นตัก ทับทิมกรอบ ใส่ถ้วยตามด้วยน้ำเชื่อม พร้อมใสเครื่องที่เตรียมไว้ เช่น วุ้นมะพร้าว, ขนุน, เฉาก๊วย และข้าวโพด ราดด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสิร์ฟ สรุป เพียงเท่านี้ก็ได้ ขนมหวาน ทับทิมกรอบ หอมกะทิสดแบบขาววังแล้ว แถมยังสามารถใส่เครื่องเยอะจุใจแค่ไหนก็ได้ และสำหรับใครที่ชอบรสหวานก็สามารถปรุงแต่งได้ตามใจชอบอีกด้วย – Henlaewhiw ขอบคุณคลิป วิธีทำทับทิมกรอบ จากช่องยูทูป: TidReview ชีวิตติดรีวิว

  1. กางเกง ยีน ส์ levi 501 ของ แท้ ราคา
  2. กะเพรายักษ์ใหญ่ใจดี จานละ 20 บาท ไม่มีเงิน กินฟรี!
  3. ผม บาง ไม่มี น้ํา หนัก
  4. Adv 150 แต่ง ล้อ 17 x
  5. โรงพยาบาลนนทเวช - นัดหมายแพทย์
  6. North face ลด ราคา 2018 men
  7. มือใหม่หัดทำ ขนมหวาน "ทับทิมกรอบ" - Pantip
  8. ความ ขัดแย้ง ใน ที่ ทํา งาน ภาษาอังกฤษ
  9. ขอรับ แหน แดง กรม วิชาการ เกษตร
  10. ตรวจหวย 16 กรกฎาคม 2561

ทับทิมกรอบเป็นขนมหวานที่รับประทานได้ทุกฤดูกาล นิยมมากที่สุดในฤดูร้อน รับประทานแล้วหอมหวานเย็นอร่อยชื่นใจคลายร้อนได้ดี แต่ปัจจุบันหาทานได้ตลอด ประกอบด้วยเม็ดทับทิมกรอบสีแดงสดใสและเม็ดทับทิมกรอบสีชมพูสวย เมื่อเคี้ยวแล้วกรอบมันด้วยรสชาติของแห้ว แต่สูตรนี้เราจะใช่มันแกวแทนเพื่อลดต้นทุนแต่รสสัมผัสยังให้ความกรอบและยังเป็นทับทิมกรอบที่เรารู้จักกันดี มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทราย ลอยด้วยดอกมะลิ มีกะทิสดจากการคั้นมะพร้าว น้ำแข็งบดละเอียดหรือน้ำแข็งทุบให้เป็นเม็ดเล็กๆ หอมชื่นใจ ทำทานเอง ทำขายต้นทุนน้อยกำไรดี ส่วนผสม 1. มันแกว 800 กรัม (ล้าง, ปอกเปลือกและหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า) 2. กะทิ 2 1/2 ถ้วยตวง 3. เกลือป่น 2 ช้อนชา 4. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง 5. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง 6. น้ำหวานแดง 1 1/2 ถ้วยตวง 7. แป้งมัน 500 กรัม 8. ขนุนฉีกเป็นฝอย, เมล็ดข้าวโพดสุก (สำหรับโรยหน้า จะมีหรือไม่มีก็ได้) วิธีทำ 1. นำมันแกวที่หั่นเสร็จแล้วไปแช่ในน้ำแดงประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ 2. นำมันแกวที่แช่ในน้ำแดงไปคลุกในแป้งมันให้ติดผิว ค่อยๆคลุกให้ติดทั่วผิวแห้วทั้งหมด จากนั้น จึงนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุกจึงนำออกมาแช่น้ำเย็น (วิธีสังเกตุ: แห้วสุกแล้วจะลอยขึ้นเหนือน้ำ) 3.